ต้องรู้ ! 5 สิ่งสำคัญ ตกแต่งบ้าน สไตล์โมเดิร์น (Modern style)

บ้าน สไตล์โมเดิร์น นั้นมีต้นกำเนิดมาจากหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 การออกแบบและแนวคิดของบ้านสไตล์โมเดิร์นได้รับอิทธิพลจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม และเทคโนโลยีในช่วงเวลานั้น โดยเฉพาะจากการเคลื่อนไหวทางศิลปะและสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า “Modernism”

การเคลื่อนไหวทางศิลปะและสถาปัตยกรรม Modernism 

Modernism เป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในยุโรปในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงวิธีการออกแบบบ้านและสิ่งก่อสร้างให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิตในยุคใหม่ โดยเน้นการใช้งานฟังก์ชันที่เรียบง่ายและการประหยัดทรัพยากร มีการเน้นการใช้วัสดุใหม่ๆ ซึ่งสามารถสร้างสรรค์รูปทรงที่เรียบง่ายและเป็นเอกลักษณ์

ต้นกำเนิดและการพัฒนา

ประเทศเยอรมนี: Bauhaus เป็นสถาบันที่มีอิทธิพลสำคัญต่อการออกแบบ สไตล์โมเดิร์น สถาบันนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1919 โดย Walter Gropius ที่เมือง Weimar เยอรมนี Bauhaus เน้นการรวมศิลปะและงานฝีมือเข้าด้วยกัน และมีอิทธิพลต่อการออกแบบบ้านและเฟอร์นิเจอร์ในลักษณะที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพ

ประเทศเนเธอร์แลนด์: กลุ่ม De Stijl ก่อตั้งขึ้นในปี 1917 โดยมีศิลปินอย่าง Piet Mondrian และสถาปนิกอย่าง Gerrit Rietveld ที่เน้นการใช้รูปทรงเรขาคณิตและสีพื้นฐานเช่น แดง เหลือง และน้ำเงิน สร้างสรรค์การออกแบบที่เน้นความเรียบง่ายและสมดุล

ประเทศฝรั่งเศส: Le Corbusier เป็นสถาปนิกที่มีอิทธิพลสำคัญต่อการออกแบบบ้าน สไตล์โมเดิร์น โดยเฉพาะจากผลงานอย่าง Villa Savoye ที่เน้นการใช้เส้นตรง รูปทรงเรขาคณิต และพื้นที่ที่เปิดโล่ง

และประเทศสหรัฐอเมริกา: ในสหรัฐอเมริกา การออกแบบสไตล์โมเดิร์นได้รับอิทธิพลจากสถาปนิกอย่าง Frank Lloyd Wright ซึ่งมีผลงานที่สำคัญเช่น Fallingwater ที่เน้นการรวมบ้านเข้ากับธรรมชาติ และการใช้วัสดุธรรมชาติ

บ้าน สไตล์โมเดิร์น นั้น ก็ยังคงมีอิทธิพลและเป็นที่นิยมถึงในปัจจุบัน ฯ

นี่คือ 5 สิ่งที่ควรรู้ เกี่ยวกับบ้าน สไตล์โมเดิร์น

1.ความเรียบง่าย  ( Modern style )

บ้านสไตล์โมเดิร์น ต้องมีเส้นสายที่คมชัด และเรียบง่าย ไม่มีรายละเอียดที่ซับซ้อน ลักษณะเส้นสายของบ้านโมเดิร์น มักจะตรงไปตรงมาและคมชัด การออกแบบที่เน้นเส้นตรงนี้ช่วยให้บ้านดูเรียบง่าย และทันสมัย

รูปทรงของบ้านจะเป็น รูปทรงสี่เหลี่ยมและทรงเรขาคณิต มีการใช้พื้นผิวที่เรียบ

ข้อดี

– ความสวยงามที่เรียบง่าย ช่วยให้บ้านดูสวยงาม และทันสมัยตลอดเวลา

ข้อเสีย

-ความเรียบง่ายอีกมุมนึง อาจทำให้ดูเย็นชา เพราะการใช้สีที่เป็นกลาง อาจทำให้ บ้านดูไม่มีชีวิตชีวา

2.ความโปร่งโล่ง ( Modern style )

พื้นที่ภายในบ้าน จะถูกออกแบบให้มีการไหลเวียนของอากาศดี และเน้นพื้นที่เปิดโล่ง มีการใช้หน้าต่างบานใหญ่ หรือผนังกระจก เพื่อลดความรู้สึกอึดอัด และไม่มีการแบ่งส่วนเป็นห้องเล็กๆมากนัก ช่วยให้พื้นที่ดูใหญ่และโปร่ง ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ตามสไตล์โมเดิร์น

ข้อดี

-พื้นที่เปิดโล่ง  ยกตัวอย่างเช่น ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องครัวหรือระเบียง ทำให้บ้านดูกว้างขวาง และสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้มากขึ้น ทำให้รู้สึก คนในบ้านเชื่อมต่อถึงกันได้ดี

ข้อเสีย

– ความเป็นส่วนตัวลดลง เพราะการออกแบบที่มีการใช้ กระจกและพื้นที่เปิดโล่ง อาจทำให้ความเป็นส่วนตัวลดลง โดยเฉพาะ ในพื้นที่ที่มีบ้านหรืออาคารใกล้เคียง

3. สีและการตกแต่ง ( Modern style )

การตกแต่งจะเน้นความเรียบง่าย ไม่มีรายละเอียดที่ซับซ้อนเกินไป สีที่ใช้มักจะเป็นสีโทนกลาง เช่น ขาว เทา ดำ และน้ำตาล เพื่อให้ดูสะอาดตา ทันสมัย

ข้อดี

-สีของบ้านสไตล์โมเดิร์น+การตกแต่ง ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย สงบ อบอุ่น น่าอยู่ศัยได้ตลอดทั้งวัน มีความใกล้เคียงกับธรรมชาติ และยังให้ความรู้สึกหรูหราอีกด้วยเช่นกัน

ข้อเสีย

-ไม่มี

(คำแนะนำ )ควรมีสีขาวไว้ เพื่อคงความเป็นโมเดิร์น

4. เทคโนโลยี

การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการควบคุมระบบต่างๆ ภายในบ้าน เช่น ระบบแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ และระบบรักษาความปลอดภัย

เทคโนโลยีที่ควรใช้มีอะไรบ้าง 

-ระบบควบคุมแสงสว่างอัจฉริยะ (Smart Lighting)

สามารถควบคุมการเปิด-ปิดไฟและปรับความสว่างผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน หรือใช้เสียงสั่งงานผ่านอุปกรณ์

-ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ (Smart Security Systems)

ประกอบด้วย ระบบล็อคประตูอัจฉริยะ , กล้องวงจรปิด และเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อดูและควบคุมได้ทุกที่ทุกเวลา

-เฟอร์นิเจอร์อัจฉริยะ (Smart Furniture)

เช่น โต๊ะทำงานที่ปรับระดับได้อัตโนมัติ (Smart Desks)  สามารถปรับระดับความสูงตามความต้องการของเราได้

-ระบบความบันเทิง (Smart Entertainment)

ทีวีอัจฉริยะ (Smart TVs)  สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เข้าถึงแอปพลิเคชันสตรีมมิงต่าง ๆ เช่น Netflix, YouTube และสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ เป็นต้น ฯ

ข้อดี

สะดวก เรียบง่าย ดูทันสมัยสไตล์โมเดิร์น และไม่ตกเทรนด์

ข้อเสีย

ค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ ระบบต่างๆอาจสูงขึ้น และบางอุปกรณ์ต้องดูแลเป็นพิเศษ

5.การใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติ ( Modern style )

บ้าน สไตล์โมเดิร์น มักใช้วัสดุอย่างเช่น ไม้ โลหะ กระจก และคอนกรีตในการสร้างบ้าน เน้นการนำวัสดุธรรมชาติมาผสมผสานกันให้เกิดความงามที่เรียบง่าย และการใช้วัสดุรีไซเคิล ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์น บ้านสไตล์โมเดิร์น ควรมีการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ เช่น การมีสวนภายในบ้าน การใช้พืชตกแต่ง เป็นต้นฯ

ข้อดี

การระบายอากาศที่ดี เน้นการใช้แสงธรรมชาติ และสามารถช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าได้

ข้อเสีย

ในบางพื้นที่ บ้านสไตล์โมเดิร์นอาจไม่เข้ากับสภาพแวดล้อม หรือธรรมชาติ ทำให้ดูขัดแย้งกับบริบทแวดล้อม ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญนักออกแบบแนะนำ

บ้าน สไตล์โมเดิร์น ( Modern style )

กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีการออกแบบที่เรียบง่าย ทันสมัย และใช้ประโยชน์จากพื้นที่อย่างคุ้มค่า นอกจากนี้ ยังมีความโดดเด่นในเรื่องของการใช้วัสดุที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ช่วยประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ทันสมัย มีดีไซน์ที่เรียบง่าย และสอดคล้องกับวิถีชีวิต บ้านสไตล์โมเดิร์นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการบ้านที่ดูดี สะดวกสบาย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยในยุคปัจจุบัน